"ฉันก็เห็น"
เรื่องสั้นเรื่อง "ฉันก็เห็น"
เรื่องโดย เด็กชายเกรียงไกร ไชยฤกษ์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนอนุบาลคลองขลุง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย


...

บรู๋ววววววว

เสียงไอ้ลายมันหอน มันเป็นหมาเจ้าถิ่นในบริเวณนี้ ไม่มีหมาตัวไหนสู้มันได้รวมถึงเสียงที่มันเปล่งออกมา เสียงของมันซึมเข้าไปในโสทประสาทของฉัน และคนที่ได้ยินเสียงมัน คนแถวนี้รู้ดีว่าถ้ามันเปล่งเสียงบ้า ๆ นี้ออกมาเมื่อไหร่เหตุการณ์อื่นก็จะตามมาในเวลาอีกไม่ช้าไม่นาน ขณะนี้ผมได้เข้านอนเรียบร้อย หลังจากนั่งทำงานบนโต๊ะตัวเล็กที่มีงานค้างจากอาทิตย์ก่อนจนเสร็จ เมื่อผมกำลังจะเคลิ้มหลับ


บรู๋ววววววว โฮ่ง โฮ่ง บรู๋ววววววว

เสียงนี้ ได้กระแทกเข้าไปในแก้วหูของผม มันเป็นเสียงที่เยือกเย็นยิ่งกว่าครั้งแรก ทำให้ขนลุกชัน เมื่อได้ยินเสียงนี้ ผมพึมพำในลำคอว่า ไอ้หมาบ้า และในเวลาไล่เลี่ยกัน กรี๊ดดดด! และเหตุการณ์ที่พูดถึงก็ตามมาจนได้ มันเป็นเสียงที่เยือกเย็นยิ่งกว่าเสียงไอ้ลายหลายเท่า และมันก็ทำให้ผมนอนต่อไปไม่ได้ ผมได้เดินไปเรียกพี่ชายข้างห้อง


กล้า : พี่ ๆ... พี่…เปิดประตูให้ผมหน่อย
พี่กาว : แกมาเรียกทำไม คนจะหลับจะนอน และเสียงพี่ชายคนโตก็แทรกเข้ามาอีก
พี่มด : แกรีบกลับไปนอนซะเร็ว ๆ เลยนะเดี๋ยวไม่งั้นจะโดน
กล้า : พี่ พี่ ได้ยินเสียงนั้นมั๊ย
พี่กาว : ได้ยิน ก็ไอ้เสียงไอ้หมาบ้านั้นงัย
กล้า : ไม่ใช่ อีกเสียงหนึ่งงัย และบทสนทนาระหว่างพี่กับน้องก็หยุดไปพักหนึ่งก่อนที่พี่คนโตจะต่อมาด้วยน้ำ เสียงกวน ๆ ของเขา
พี่มด : หรือว่าแกกลัว คำถามนี้มันแทงใจดำของผมจึงตัดบทตอบออกไปโดยไม่รีรอว่า

กล้า : ไม่มีทางด้วยความโมโหผมจึงพูดออกไปอีกว่า
กล้า : ฉันขอท้าพี่เลยว่ากล้าไปดูกันหรือเปล่าที่ ฉันพูดออกไปเช่นนั้นเพราะฉันรู้นิสัยพี่ฉันทั้งสองนี้ดี เขาสองคนนั้นมันเป็นบ้าเรื่องท้าทาย เรื่อง ศักดิ์ศรี

เมื่อโดนคำที่ผม พูดออกไปก็เหมือนว่า พี่ชายทั้งสองรวมถึงผมตาสว่างขึ้นมาทันที พี่กาวคว้ามือผมพร้อมเดินลงบันไดมาคว้าไปฉาย และเดินผ่านรั้วหน้าบ้านที่มีกล่องรับจดหมายขึ้นสนิมอยู่และเดินไปตามทาง ที่เสียงนั้นเกิดขึ้น

โอ้! มืดจัง

เสีงอุทานของพี่กาว หลังจากเดินออกมาได้เพียงไม่กี่ก้าวซึ่งบริเวณนี้ไม่มีไฟข้างทาง เนื่องจากถูกพวกขโมยมาลักเอาสายไฟไปหลายครั้ง จนทางการไม่มีงบประมาณที่จะนำมาต่อเติม และมันก็เพิ่มบรรยากาศให้แถวนี้ไม่ใช่น้อย ในเรื่องความน่ากลัว รวมถึงเมื่อมาได้ไม่ไกลแสงไฟฉายก็ได้ตกกระทบกับวัตถุบางอย่าง สะท้อนแสงเหลืองเข้มมี ๒ จุด ซึ่งทำให้ผมและพี่ทั้งสองหยุดชะงักโดยไม่ได้นัดกัน พี่กาวเริ่มขยับตัวร่นถึงผม ขยับไปยืนอยู่ข้างหลังพี่มด และไอ้ แสงนั้นก็ขยับตาม แสงนั้นได้หายไป ถูกแทนที่ด้วย ปากอันสั้น ใบหูหนาแหลม ลำคอที่มีรอยแผลเป็น ลำตัวอันปกคลุมไปด้วยขนสีน้ำตาลจุดดำ และจะเป็นตัวอะไรไปไม่ได้ คือไอ้หมาบ้าที่พูดถึง ด้วยความปราดเปรียวของมัน มันก็ได้วิ่งหายไปในป่าหญ้าข้างทาง ขณะนี้ ก็ดึกมากไม่มีแม้แสงดาวและเสียงสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่มันควรจะมีในบริเวณนี้ แถวนี้น่ากลัวมากเพราะมีต้นมะขามขนาดใหญ่ ขึ้นปกคลุมอยู่โดยที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ แถวนี้เทียบได้ มันเป็นบริเวณที่ชาวบ้านพบเรื่องแปลก ๆ มากที่สุด ในหัวฉันก็คิดไปต่าง ๆ นานา ที่ชาวบ้านประสบพบเห็นในแถวนี้

วูบบบบบ

แสงไฟดวงโตสีขาว ลอยลงมาจากยอดไม้ลอยผ่านหน้าที่มดไป เพียงไม่กี่วาเท่านั้น แต่มันสามารถทำให้คนที่กลัวที่สุดหลุดปากร้องลั่น

“ตูไม่เอาแล้ว”

แล้วหันหลังผลัก ฉันล้มลง ซึ่งในตอนนี้ ฉันก็ทำอะไรไม่ถูก เมื่อล้มลงไปฉายก็หลุดมือหายไป หัวใจฉันเต้นระรัวเหมือนมันจะหลุดออกมานอกอก เย็นยะเยือก ฉันรีบควานหาไฟฉายที่หลุดมือไป

“หนูไฟฉายหนูอยู่ทางนี้”

เสียงอันเย็นยะ เยือกและแหบแห้งของคนแก่ ยิ่งทำให้ฉันเหงื่อไหลและหัวใจเต้นเร็วกว่าเดิมอีก ในไม่ช้า เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีก ซึ่งทำร่างของผมเบาหวิวเหมือนจะลอยให้ได้ ในขณะนั้นในสมองของผมเริ่มหนักอึ้งด้วยความคิดต่าง ๆ ที่มันเริ่มทำงานอยู่ข้างใน ผมลุกได้แล้วก็วิ่งโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลัง “ฮะฮะ ฮะ แล้วมาใหม่นะ” เสียงนั้นยิ่งทำให้ผมวิ่งเร็วขึ้นอีก...




บทความนี้มาจาก โรงเรียนอนุบาลคลองขลุง
http://www.anubankk.net

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.anubankk.net/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=23