ARTICLE
คำนำหน้านาม คือ a, an, the
Articles (อาทิคึล) หมายถึง “คำนำหน้านาม” คำนามทุกคตัวในภาษาอังกฤษเวลาพูดหรือเขียนต้องใช้ Articles นำหน้าทั้งนั้น (ยกเว้นนามบางตัวหรือบางกรณีไม่ต้องใช้ Articles) จะเห็นว่าในภาษาไทยเรานั้นจะกล่าวถึงโดยไม่ต้องมีคำนำหน้าได้ เช่น คน สัตว์ บ้าน เป็นต้น แต่ในภาษาอังกฤษนั้น ถ้าจะกล่าวถึง นามที่นับได้ ส่วนมากต้องมีคำนำหน้า เช่น a man an animal หรือ the house เป็นต้น
ในภาษาอังกฤษเราแบ่งคำนามออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. นามนับได้ (Countable Noun) ได้แก่นามที่สามารถแยกนับเป็นจำนวน หนึ่ง สอง สาม... ได้ ไม่ว่าจะมีรูปร่างหรือไม่ก็ตาม เช่น table, boy, city ที่ไม่มีรูปร่างเช่น day, year เป็นต้น
2. นามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) ได้แก่ นามที่ไม่สามารถแยกนับเป็นจำนวน หนึ่ง สอง สาม... ได้เนื่องจากไม่มีตัวตนหรือมีตัวตนแต่ก็ไม่อาจ แยกนับได้หรือไม่นิยมนับกัน เช่น
- ไม่มีตัวตน : happiness, sadness
- มีตัวตน คือ มีรูปร่างแต่นับไม่ได้ เช่น bread, water,oil
A (เอ) ออกเสียง อะ เมื่อนำหน้านาม
A = สิ่งหนึ่ง หรือ อันหนึ่ง ใช้นำหน้านามชนิดที่นับได้ แต่ต้องไม่เกิน หนึ่ง เช่น
A boy (อะ บอย) = เด็กชายคนหนึ่ง
A girl ( อะ เกิล) = เด็กหญิงหนึ่งคน
ตัวอย่าง a table, a week, a boy, a country, a pen, a dog, a key, a teacher, a student, a dozen, a doctor etc.
An (แอ็น)
An = สิ่งหนึ่ง หรืออันหนึ่ง ใช้นำหน้านามชนิดที่นับได้ที่ไม่เกินหนึ่ง เหมือน a แต่นำหน้าเฉพาะนามที่เป็นสระ คือ A E I O U เช่น
An ant (แอ็น แอ็นท) = มดตัวหนึ่ง
An eye (แอ็น อาย) = ตาข้างหนึ่ง
ตัวอย่าง an orange, an elephant, an umbrella, an actress, an old, an answer, an idea etc.
The (เธอะ)
ใช้นำหน้านามได้ทั่วไป ที่ชี้เฉพาะลงไป ไม่ว่าจะมีเพียงหนึ่ง หรือมากกว่าหนึ่ง เช่น
the book (เธอะ บุค) = หนังสือ
the table (เธอะ เทบิล) = โต๊ะ
อนึ่ง ถ้า the นำหน้านามที่เป็นสระให้อ่านออกเสียงว่า ธิ เช่น
the egg (ธิ เอ็ก) = ไข่
the ant (ธิ แอ็นท) = มด
ตัวอย่าง The Chao Praya, The Prime Minister, The United States of America, The Daily news, the South, the best, The moon, The sun etc.
หมายเหตุ ถ้าคำนามนั้นเป็นคำที่มีสระนำหน้า เช่น University แต่ออกเสียงเป็นพยัญชนะ คือ “ยู” ก็ออกเสียงเป็น “เธอะ” ไม่อ่านว่า “ธิ” เช่น the University (เธอะ ยูนิเวอซิทิ)
การใช้ Articles ที่กล่าวมานี้ เป็นหลักเกณฑ์การใช้โดยย่อ นักเรียนควรศึกษาเพิ่มเติมรายละเอียดข้อสังเกตการใช้ เวลาใช้พูดหรือเขียนจะได้ใช้ Articles ได้ถูกต้อง |
