การทักทาย (Greetings)
การทักทาย (Greetings)
ในภาษาอังกฤษการทักทาย ใช้แตกต่างกันออกไปตามแต่เวลาที่พบปะกัน แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลาด้วยกันคือ ตอนเช้า ตอนบ่าย และตอนค่ำ ซึ่งแตกต่างจากคนไทยเมื่อพบกันจะกล่าวคำว่า "สวัสดี" เราลองมาทักทายแบบภาษาอังกฤษกันดูบ้าง
1. Good morning (กุด มอนิง)
สวัสดีตอนเช้า ใช้ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงวันและใช้กับผู้ใดก็ได้
2. Good afternoon (กุด อาฟเทอะนูน)
สวัสดีตอนบ่าย ใช้ตั้งแต่หลังเวลาอาหารกลางวัน คือหลังเที่ยงไปจนถึง ประมาณ 6 โมงเย็น
3. Good evening (กุด อีฟวนิง) สวัสดีตอนค่ำ ใช้ตั้งแต่หลังเวลา 6 โมงเย็นไปแล้วจนถึงเวลากลางคืน
4. Hello (เฮ็ลโล)
ใช้เฉพาะกับเพื่อนสนิท หรือทักทายแบบไม่เป็นทางการ โดยไม่จำกัดเวลา
5. Hi (ฮาย,ไฮ่)
ใช้กับคนที่เราสนิทมาก โดยไม่จำกัดเวลาเช่นกัน
6. How do you do ? (ฮาว ดู ยู ดู)
คำนี้เป็น คำทักทายเช่นกัน แต่ไม่ค่อยนิยมใช้บ่อยเหมือนคำทักทายข้างต้น แต่ก็ยังมีใช้ให้ได้ยินอยู่บ่อย ๆ และก็ไม่ได้จำกัดเวลาใช้ แต่ก็ไม่ควรนำคำนี้ไปปนกับคำว่า "How are you" ซึ่งจะอธิบายต่อไป เพราะคำว่า "How are you" นี้เป็นคำทักทาย (Greeting) แต่จะใช้เฉพาะกับคนที่พบหรือรู้จักกันเป็นครั้งแรกเท่านั้น และจะอยู่ในรูปของประโยคคำถามซึ่งไม่ต้องการคำตอบ อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้เลยว่า เมื่อถูกทักทายว่า How do you do ? เราก็ต้องกล่าวตอบว่า How do you do ? เช่นเดียวกัน
ส่วนคำว่า "Good night" (กุด ไนท์) เป็นคำพิเศษกว่าคำอื่น เพราะ ว่า "Good night" ไม่ใช่คำทักทาย แต่เอาไว้พูดตอนที่เราต้องกล่าวคำอำลาในตอนกลางคืน
สำหรับในภาษาอังกฤษ หลังจากที่ทักทายกันด้วยคำว่า "สวัสดี" แล้วก็จะถามถึงสุขภาพของอีกฝ่ายหนึ่งทันที และถือเรื่องนี้เป็นสิ่งจำเป็นด้วยและคำที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ
How are you ? (ฮาว อาร์ ยู) - คุณสบายดีหรือ, คุณเป็นอย่างไรบ้าง
How are you today ?(ฮ่าว อาร์ ยู ทูเด้) - คุณสบายดีหรือวันนี้
How are you this morning ? (ฮ่าว อาร์ ยู ธิส ม้อนิ่ง) - คุณสบายดีหรือเช้านี้
How are you this afternoon ? (ฮ่าว อาร์ ยู ธิส อาฟเทอะนูน) - คุณสบายดีหรือบ่ายนี้
How are you this evening ? (ฮ่าว อาร์ ยู ธิส อีฟวนิง) - คุณสบายดีหรือเย็นนี้
หลังจากที่ทักทาย และถามถึงสุขภาพแล้ว ฝ่ายผู้ตอบก็จะต้องตอบ ตามสถานการณ์ อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น
1. Fine, thanks. How are you ? (ฟายน แธ้งคส ฮ่าว อาร์ ยู้) - สบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะเป็นอย่างไรบ้าง
2. Very well, thank you, and you ? (เวะริ เว็ล แธ้ง คิ่ว แอ็นด หยู) - สบายดีมากเลย ขอบคุณแล้วคุณล่ะ
3. I'm fine, thank you, and how are you ? (ไอม ฟายน แธ้ง คิ่ว แอ็นด ฮ่าว อาร์ ยู้) - ฉันสบายดี ขอบคุณ แล้วคุณสบายดีหรือ
4. OK thank and you ? (โอเค แธ้ง แอ็นด หยู) - โอเคครับ ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ
5. Not so well, I have a cold. How are you ? (น็อท โซ เว็ล ไอ แฮ็ฟ อะ โคลด ฮาว อาร์ ยู้) - ผมไม่ค่อยสบาย ผมเป็นหวัด แล้วคุณล่ะเป็นอย่างไรบ้าง
6. Not very well, I have a headache. How are you ? (น็อท เวะริ เว็ล ไอ แฮ็ฟ อะ เฮ็ดเอค ฮ่าว อาร์ ยู้)- ไม่ค่อยดีเลย ฉันปวดหัว แล้วคุณล่ะสบายดี หรือ
7. Great. (เกรท) - สบายดี
8. So so. (โซ โซ) - ก็เรื่อย ๆ
9. Not bad. (นอท แบด) - ก็ไม่เลว (แต่ก็ไม่ดี)
นักเรียนลองกล่าวทักทายตามแบบภาษาอังกฤษกับเพื่อน ๆ และลองทำบ่อย ๆ จะทำให้นักเรียนไม่เคอะเขินเวลาเราพบคนต่างชาติและต้องการจะสื่อสาร วิธีการถามก็มีหลายแบบแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ ความสนิทสนมและอารมณ์ของผู้พูด อย่างไรก็ตาม การหมั่นฝึกฝนจะทำให้นักเรียนเป็นคนเก่งภาษาอังกฤษได้อย่างแน่นอน |
